โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง เป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้
ประโยชน์ทางตรงทางหลวงหมายเลข 4029 เป็นถนนเพียงเส้นทางเดียวที่รองรับการเดินทางจากเมืองภูเก็ตที่เป็นเขตเศรษฐกิจ ย่านการค้าและการท่องเที่ยวไปยังหาดป่าตอง ซึ่งเป็นชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีสภาพเส้นทางที่ลาดชันและคดเคี้ยวและต้องรองรับปริมาณจราจรจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้น การพัฒนาทางพิเศษเป็นทางเลือกในการเดินทางที่ตัดตรงโดยการเจาะอุโมงค์ผ่านภูเขา จะเป็นการเพิ่มเส้นทางการเดินทางระหว่างตัวเมืองฝั่งตะวันออกของภูเก็ตไปยังหาดป่าตอง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังหาดป่าตอง ทำให้ขีดความสามารถในการรองรับการเดินทางระหว่างเมืองภูเก็ตและหาดป่าตองมีมากยิ่งขึ้น ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นเนื่องจากสภาพเส้นทางที่ลาดชันและคดเคี้ยว รวมทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ และช่วยลดเวลาในการเดินทางได้อีกด้วย นอกจากนี้ ทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จะช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นของโครงข่ายถนนในพื้นที่ และเนื่องจากเป็นทางพิเศษจึงเป็นการเพิ่มมาตรฐานแนวเส้นทางให้มีความสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการเดินทางของทั้งผู้ใช้บริการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง และผู้ใช้บริการโครงข่ายถนนเดิม
ประโยชน์ทางอ้อมการพัฒนาโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดภูเก็ตอีกทางหนึ่งโดยจะเห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังภูเก็ตมากกว่า 13.3 ล้านคนในแต่ละปี และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่การเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดภูเก็ตจะต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะหลัก ซึ่งการพัฒนาทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตองจะเป็นการเพิ่มความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว จึงถือว่าเป็นการส่งเสริมให้มีการเดินทางเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว จึงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นการส่งเสริมให้จังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพในการรองรับจานวนนักท่องเที่ยวได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสามเหลี่ยมอันดามัน (ภูเก็ต-พังงา-กระบี่) ที่จะช่วยพัฒนาพื้นที่ภาคใต้และประเทศไทยในอนาคต